เมนู

คนโง่ทำกรรมลามก


ภิกษุหลายรูป กราบทูลการกระทำกาละของสุปปพุทธะนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทูลถามว่า "คติของสุปปพุทธะนั้น เป็นอย่างไร ?
เพราะเหตุไรเล่า ? เขาจึงถึงความเป็นคนมีโรคเรื้อน."
พระศาสดา ทรงพยากรณ์ความที่สุปปพุทธะนั้นบรรลุโสดาปัตติผล
แล้ว เกิดในดาวดึงสภพ และการเห็นพระตครสีขีปัจเจกพุทธเจ้าถ่ม
(น้ำลาย) แล้ว หลีกไปทางซ้าย1 ไหม้แเล้วในนรกตลอดกาลนาน ด้วย
วิบากที่เหลือ ถึงความเป็นคนมีโรคเรื้อนในบัดนี้แล้ว ตรัสว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย สัตว์เหล่านี้ เที่ยวกระทำกรรมมีผลเผ็ดร้อนแก่ตนเองแล "
ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรมให้ยิ่งขึ้น จึงตรัสพระคาถา
นี้ว่า :-
7. จรนฺติ พาลา ทุมฺเมธา อมิตฺเตเนว อตฺตนา
กโรนฺตา ปาปกํ กมฺมํ ยํ โหติ กฏุกปฺผลํ.
"ชนพาลทั้งหลาย มีปัญญาทราม มีตนเป็นดัง
ข้าศึก เที่ยวทำกรรมลามกซึ่งมีผลเผ็ดร้อนอยู่."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จรนฺติ ความว่า เที่ยวกระทำอกุศล
ถ่ายเดียว ด้วยอิริยาบถ 4 อยู่.
ชนทั้งหลาย ผู้ไม่รู้ประโยชน์ในโลกนี้ และประโยชน์โนโลกหน้า
ข้อว่าพาล ในบทว่า พาลา นี้.
1. อปพฺยามํ กตฺวา ถือเอาความว่า หลีกซ้าย. ธรรมดาบัณฑิต เห็นพุทธบุคคลแล้วย่อมหลีก
ทางขวา. ดูใน อรรถกถาอุทาน หน้า 368.

บทว่า ทุมฺเมธา คือมีปัญญาเขลา. บทว่า อมิตฺเตเนว ความว่า
เป็นราวกะว่าคนมีเวรผู้มิใช่มิตร. บทว่า กฏุกปฺผลํ ความว่า มีผล
เข้มแข็ง คือมีทุกข์เป็นผล.
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปิตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องสุปปพุทธกุฏฐิ จบ.

8. เรื่องชาวนา [52]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภชาวนาคน
หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "น ตํ กมฺมํ กตํ สาธุ" เป็นต้น.

โจรเข้าลักทรัพย์ในตระกูลมั่งคั่ง


ได้ยินว่า ชาวนานั้น ไถนาแห่งหนึ่งอยู่ในที่ไม่ไกลจากกรุงสาวัตถี.
พวกโจรเข้าไปสู่พระนครโดยท่อน้ำ ทำลายอุโมงค์ในตระกูลมั่งคั่งตระกูล
หนึ่ง เข้าไปถือเอาเงินและทองเป็นอันมากแล้วก็ออกไปโดยทางท่อน้ำ
นั่นเอง. โจรคนหนึ่ง ลวงโจรเหล่านั้น กระทำถุงที่บรรจุทรัพย์พันหนึ่ง
ถุงหนึ่งไว้ที่เกลียวผ้าแล้วไปถึงนานั้น แบ่งภัณฑะกับโจรทั้งหลายเหล่านั้น
แล้ว ถือพาเดินไปอยู่ ไม่ได้กำหนดถึงถุงบรรจุทรัพย์พันหนึ่งที่ตกลงจาก
เกลียวผ้า.

พระศาสดาทรงเล็งเห็นอุปนิสัยของชาวนา


ในวันนั้น เวลาใกล้รุ่ง พระศาสดา ทรงตรวจดูสัตวโลก ทรง
เห็นชาวนานั้น ผู้เข้าไปในภายในข่ายคือพระญาณของพระองค์ แล้วทรง
ใคร่ครวญอยู่ว่า "เหตุอะไรหนอแล ? จักมี" ได้ทรงเห็นเหตุนี้ว่า
" ชาวนาคนนี้ จักไปเพื่อไถนาแต่เช้าตรู่, แม้พวกเจ้าของภัณฑะ ไป
ตามรอยเท้าของโจรทั้งหลายแล้ว เห็นถึงที่บรรจุทรัพย์พันหนึ่งในนาของ